เห็นผลประกอบการของหุ้น BTS แล้วก็อดไม่ได้ที่จะไม่ตกใจ !! เพราะขาดทุนหนักถึง 4.76 พันล้านบาท จากที่บริษัทเคยมีกำไร 1.04 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า
เรียกได้ว่า ออกมาแย่มาก และผิดจากที่นักลงทุนคาดหวังไว้ว่าจะเติบโต ซึ่งถ้าเราไปดูการขาดทุนสำหรับงวด จะขาดทุนหนักถึง 6.25 พันล้านบาท โดยหลักที่ขาดทุนมาจากการด้อยค่าของการลงทุนหลายรายการ เช่น
- การเข้าถือหุ้น KEX ผ่าน VGI และ BTS โดยตรง
- การเข้าถือหุ้น JMART ผ่าน VGI
- การเข้าถือหุ้น SINGER ผ่าน RABBIT
- การเข้าถือหุ้น VGI โดย BTS ถือหุ้น 60.4% และ RABBIT 35%
ผลประกอบการ 3Q66 ครั้งนี้ที่อยากจะฝากข้อสังเกตเอาไว้ อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ
1. รายได้รวมอยู่ที่ 6.87 พันล้านบาท เติบโต 3.8% มาจากธุรกิจจับเหมาที่เพิ่มขึ้น
และธุรกิจบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
2. รายได้เพิ่มน้อย แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า
โดยรายจ่ายอยู่ที่ 10.11 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 122%
หลักๆมาจากการด้อยค่าของ KEX JMART และ SINGER
3. ในรายงานคำอธิบาย บอกว่า BTS มีการบันทืกด้อยค่าสูงถึง 5.07 พันล้านบาท
และนี้เป็นสาเหตุหลักทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น จนบริษัทพลิกกลับมาเป็นขาดทุน
4 . การขาดทุนครั้งนี้ทำให้ Book Value ของ BTS หายไปค่อนข้างมาก
โดย 3Q65 อยู่ที่ 6.61 บาทต่อหุ้น ลดลงมาเหลือ 5.11 บาทต่อหุ้น ใน 3Q66
5. อัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ -69.3%
อย่างไรก็ตาม ด้วยผลประกอบการที่แย่น่าจะส่งผ่านไปยังราคาหุ้นแล้วระดับหนึ่ง โดยตั้งแต่ต้นปีมานี้ ราคาหุ้น BTS ปรับตัวลงมาแล้ว -23% แสดงให้เห็นว่าสะท้อนความกังวลไปแล้ว
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี มองว่า BTS ไม่น่าจะเจอกับการขาดทุนหนักๆอีก และราคาหุ้นที่ร่วงลงมาก็สะท้อนความอ่อนแอของผลประกอบการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการของ VGI และบริษัทย่อยอื่นๆที่จะคอยกดดันผลประกอบการของ BTS ต่อไป ซึ่งตอนนี้ฝ่ายวิจัยอยู๋ในช่วงของการปรับประมาณการหุ้น BTS ใหม่
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง วิเคราะห์ว่า ปี 2566 นักลงทุนน่าจะเห็น BTS คาดทุนมากกว่าเดิม
ซึ่งบทวิเคราะห์ คาดว่าน่าจะรายงานผลขาดทุนทั้งปีอยู่ที่ 5.21 พันล้านบาท สะท้อนผลประกอบการ 3Q66 ที่แย่ และแนวโน้ม 4Q66 ก็อาจจะมีแนวโน้มลดลงต่อไปได้อีก
สรุปคือ แนวโน้มผลประกอบการของ BTS ยังไม่สดใส และไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จึงไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น สิ่งที่พอจะคาดหวังได้ คือ การเพิ่มระบบขนส่งมวลชนทั่วกรุงเทพ แต่นั้นก็เป็นเรื่องในอีกหลายปีข้างหน้าที่จะช่วยสร้างโอกาสเติบโตในระยะยาว
หุ้น BTS คือบทสรุปของบริษัทที่มีธุรกิจแข็งแกร่ง แต่อาจจะเลือกลงทุนในบางธุรกิจที่ผิดเวลา ทำให้เกิดการด้อยค่าจากลงทุนมากเกินไป ส่งผลให้ผลประกอบการภาพรวมออกมา "ขาดทุนค่อนข้างหนัก" แต่ถ้าเราพูดถึงผลประกอบการจากการรับเหมาก่อสร้าง และให้บริการเดินรถเพียงอย่างเดียว ต้องยอมรับว่าธุรกิจยังดูดีอยู่ ต่อจากนี้ สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตาม คือ บริษัทลูกที่ BTS ถือหุ้นอยู่ ผลประกอบการจะฟื้นตัวเมื่อไร ถือเป็นความท้าทายที่ BTS ยังต้องเจออยู่ต่อไป นั่นเองครับ
ที่มา : https://today.line.me/th/v2/article/zNBq2MK